เมนู

ศาสดาจึงทรงเหยียดพระหัตถ์เบื้องขวาออก ตรัสกะชัมพุกะนั้นว่า "เธอ
จงเป็นภิกษุมาเถิด, จงประพฤติพรหมจรรย์เถิด." ขณะนั้นเอง เพศ
คฤหัสถ์ของเธอ หายไปแล้ว. เธอเป็นผู้ทรงบริขาร 8 ได้เป็นประดุจ
พระเถระมีพรรษา 60 แล้ว.

ชัมพุกะบอกความจริงแก่มหาชน


ได้ยินว่า วันนั้น เป็นวันแห่งชาวอังคะและมคธะ ถือสักการะมา
เพื่อชัมพุกะนั่น; เพราะฉะนั้น ชาวแว่นแคว้นทั้งสอง ถือสักการะมาแล้ว
เห็นพระตถาคตแล้ว จึงคิดว่า "ชัมพุกะผู้เป็นเจ้าของพวกเราเป็นใหญ่
หรือหนอแล ? หรือว่า พระสมณโคดมเป็นใหญ่" คิดว่า "ถ้า
พระสมณโคดม พึงเป็นใหญ่, ชัมพุกะนี้ พึงไปสู่สำนักของพระสมณ-
โคดม, แต่เพราะความที่ชัมพุกาชีวกเป็นใหญ่ พระสมณโคดมจึงเสด็จมา
สู่สำนักชัมพุกาชีวกนี้."
พระศาสดา ทรงทราบความปริวิตกของมหาชน จึงตรัสว่า
" ชัมพุกะ เธอจงตัดความสงสัยของพวกอุปัฏฐากของเธอเสีย." เธอ
กราบทูลว่า แม้ข้าพระองค์ ก็หวังพระพุทธดำรัสมีประมาณเท่านี้
เหมือนกัน พระเจ้าข้า" ดังนี้แล้ว เข้าฌานที่ 4 ลุกขึ้น เหาะขึ้นสู่
เวหาสประมาณชั่วลำตาล กราบทูลว่า "พระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคเจ้า
เป็นพระศาสดาของข้าพระองค์, ข้าพระองค์เป็นสาวก" แล้วลงมา
ถวายบังคม เหาะขึ้นสู่เวหาสประมาณ 7 ชั่วลำตาลอีก ด้วยอาการอย่างนี้
คือ ประมาณ 2 ชั่วลำตาล ประมาณ 3 ชั่วลำตาล แล้วลงมา ยัง
มหาชนให้ทราบความที่ตนเป็นสาวก. มหาชนเห็นเหตุนั้นแล้ว คิดว่า